หลายคนคงเคยสงสัยว่าทำไมค่าไฟในแต่ละเดือนถึงได้แพงผิดปกติ ทั้งที่ใช้ไฟในปริมาณเท่าเดิม แต่กลับต้องจ่ายค่าไฟเพิ่มขึ้นอย่างน่าตกใจ มาทำความเข้าใจสาเหตุของค่าไฟแพงผิดปกติ พร้อมวิธีคำนวณและแนวทางการลดค่าไฟที่ใช้ได้จริง
ค่าไฟแพงผิดปกติเกิดจากอะไร?
ค่าไฟแพงผิดปกติมีสาเหตุหลักมาจากหลายปัจจัย ทั้งพฤติกรรมการใช้ไฟฟ้า การปรับขึ้นของค่าไฟฟ้าผันแปร และสภาพแวดล้อม มาดูแต่ละสาเหตุกัน
พฤติกรรมการใช้ไฟฟ้า
โดยเฉพาะในช่วงที่มีการ Work From Home หรือหน้าร้อน การใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีกำลังไฟสูงพร้อมกันหลายเครื่อง เช่น เครื่องปรับอากาศ พัดลมไอน้ำ เครื่องฟอกอากาศ ตู้เย็น และไมโครเวฟ ทำให้ค่าไฟเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
ค่า Ft ที่มีการปรับตัวขึ้น
การปรับขึ้นของค่า Ft อย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา จากเดิม 1.39 สตางค์ต่อหน่วย เพิ่มขึ้นเป็น 93.43 สตางค์ต่อหน่วย ซึ่งเป็นอัตราที่สูงที่สุดในรอบ 10 ปี ส่งผลให้ค่าไฟฟ้าสูงขึ้นแม้จะใช้ไฟในปริมาณเท่าเดิม
เครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีการชำรุด หรือมีไฟรั่ว
เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ชำรุดหรือมีไฟรั่วเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ค่าไฟแพงโดยไม่รู้ตัว นอกจากจะสิ้นเปลืองพลังงานแล้ว ยังอาจก่อให้เกิดอันตรายจากไฟฟ้าลัดวงจรได้
สภาพอากาศที่ร้อนอบอ้าว
อุณหภูมิที่สูงขึ้นทำให้เครื่องปรับอากาศต้องทำงานหนักขึ้น แม้จะตั้งอุณหภูมิเท่าเดิม ส่งผลให้กินไฟมากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงเดือนเมษายน-มิถุนายน ที่มีอุณหภูมิสูงสุด
โครงสร้างอัตราค่าไฟ
ระบบการคิดค่าไฟแบบขั้นบันไดหรืออัตราก้าวหน้า ยิ่งใช้ไฟมาก ยิ่งต้องจ่ายในอัตราที่สูงขึ้น โดยแบ่งเป็นช่วงต่างๆ ตั้งแต่ 3.2484 บาทต่อหน่วย จนถึง 4.4217 บาทต่อหน่วย
มาตรการลดค่าไฟจากภาครัฐ
บางครั้งค่าไฟที่แพงขึ้นอาจเกี่ยวข้องกับมาตรการช่วยเหลือจากภาครัฐ เช่น การใช้ไฟฟรี 90 หน่วยแรกสำหรับผู้ใช้ไฟไม่เกิน 150 หน่วย หรือการคิดค่าไฟตามจริงสำหรับผู้ที่ใช้ไฟเกิน 150 หน่วยแต่ไม่เกินเดือนเมษายน 2564
อัปเดตหน่วยค่าไฟ 2567
ในปี 2567 อัตราค่าไฟฟ้าเฉลี่ยอยู่ที่ 4.70 บาทต่อหน่วย โดยมีการปรับค่า Ft ทุก 4 เดือนตามต้นทุนการผลิตและปัจจัยต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ผู้ใช้ไฟฟ้าควรติดตามการประกาศอัตราใหม่จากคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) อย่างสม่ำเสมอ
ส่วนประกอบของบิลค่าไฟมีอะไรบ้าง?
บิลค่าไฟฟ้าประกอบด้วย 4 ส่วนหลักที่นำมาคำนวณเป็นค่าไฟฟ้ารวมที่ต้องชำระในแต่ละเดือน มาดูแต่ละส่วนกัน
1. ค่าพลังงานไฟฟ้า (ค่าไฟฐาน)
เป็นค่าใช้จ่ายพื้นฐานที่คำนวณจากต้นทุนในการผลิตและจำหน่ายไฟฟ้า รวมถึงค่าระบบส่งและจำหน่ายไฟฟ้า มีการปรับทุก 3-5 ปีตามสถานการณ์
2. ค่าไฟฟ้าผันแปร (ค่า Ft)
ค่า Ft คือ ค่าไฟฟ้าผันแปรที่ปรับเปลี่ยนตามต้นทุนค่าเชื้อเพลิงและค่าซื้อไฟฟ้าจากผู้ผลิตเอกชนหรือต่างประเทศ มีการปรับทุก 4 เดือนเพื่อสะท้อนต้นทุนที่เปลี่ยนแปลง
3. ค่าบริการรายเดือน
ค่าใช้จ่ายในการอ่านมิเตอร์ จัดทำใบแจ้งหนี้ และบริการลูกค้า โดยมีอัตราแตกต่างกันตามประเภทผู้ใช้ไฟ เช่น บ้านที่ใช้ไฟไม่เกิน 150 หน่วย เสียค่าบริการ 8.19 บาทต่อเดือน
4. ภาษีมูลค่าเพิ่ม
ภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% คำนวณจากผลรวมของค่าพลังงานไฟฟ้า ค่า Ft และค่าบริการรายเดือน
วิธีลดและแก้ปัญหาค่าไฟแพงผิดปกติ
มีหลายวิธีที่สามารถช่วยแก้ปัญหาค่าไฟแพงผิดปกติได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่กระทบต่อความสะดวกสบายในการใช้ชีวิต
ถอดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าเมื่อไม่ใช้งาน
การถอดปลั๊กหลังใช้งานช่วยประหยัดไฟได้ประมาณ 5-10% เนื่องจากเครื่องใช้ไฟฟ้าบางชนิดยังกินไฟแม้จะปิดเครื่องแล้ว อีกทั้งยังช่วยป้องกันไฟฟ้าลัดวงจรและยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์
เปิดเครื่องปรับอากาศในอุณหภูมิที่เหมาะสม
ควรตั้งอุณหภูมิที่ 25-26 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นระดับที่เหมาะสมกับร่างกายและประหยัดพลังงาน หากต้องการความเย็นเพิ่ม ให้เปิดพัดลมร่วมด้วยแทนการลดอุณหภูมิ
ใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5
เลือกใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีฉลากเบอร์ 5 ซึ่งผ่านการรับรองประสิทธิภาพการประหยัดพลังงานจากการไฟฟ้าฝ่ายผลิต แม้จะมีราคาสูงกว่า แต่ช่วยประหยัดค่าไฟในระยะยาวและคุ้มค่ากว่า
ใช้ไฟฟ้าจากระบบโซลาร์เซลล์
การติดตั้งระบบโซลาร์เซลล์ช่วยลดค่าไฟได้ 30-70% และมีระยะเวลาคืนทุน 3-5 ปี นอกจากนี้ยังสามารถขายไฟคืนให้การไฟฟ้าได้หน่วยละ 2.20 บาท เป็นระยะเวลา 10 ปี
ค่าไฟแพงผิดปกติมีวิธีเช็กยังไงบ้าง?
หากสงสัยว่าค่าไฟแพงผิดปกติ สามารถตรวจสอบได้ตามขั้นตอนต่อไปนี้
1. เช็กความถูกต้องของการจดหน่วยการใช้ไฟฟ้า
ตรวจสอบตัวเลขมิเตอร์กับใบแจ้งหนี้ว่าตรงกันหรือไม่ ถ่ายรูปไว้เป็นหลักฐาน หากพบความผิดพลาดให้แจ้งการไฟฟ้าเพื่อตรวจสอบและแก้ไข
2. เช็กมิเตอร์ว่ามีการชำรุดเสียหายหรือไม่
ทดสอบโดยปิดเบรกเกอร์ประมาณ 15 นาที หากมิเตอร์ยังหมุนแสดงว่ามีความผิดปกติ ให้แจ้งการไฟฟ้าเพื่อตรวจสอบและเปลี่ยนมิเตอร์ใหม่
3. เช็กอุปกรณ์ไฟฟ้าในบ้าน ว่ามีไฟรั่วหรือไม่
ปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชนิดแต่ยังไม่ปิดเบรกเกอร์ หากมิเตอร์ยังหมุนแสดงว่ามีไฟรั่ว ควรเรียกช่างมาตรวจสอบระบบไฟฟ้าโดยเร็ว
4. เช็กพฤติกรรมการใช้ไฟฟ้าของตัวเอง
สำรวจการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าว่ามีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่ เช่น การเปิดแอร์นานขึ้น การใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าหลายเครื่องพร้อมกัน
5. แจ้งการไฟฟ้าให้เข้ามาตรวจสอบ
หากทำตามขั้นตอนข้างต้นแล้วยังไม่พบสาเหตุ สามารถยื่นคำร้องให้การไฟฟ้าเข้าตรวจสอบ โดยไม่มีค่าใช้จ่ายหากพบความผิดปกติจริง
ค่าไฟแพงผิดปกติ สามารถร้องเรียนได้ที่ไหน
หากพบปัญหาค่าไฟแพงผิดปกติ สามารถร้องเรียนได้ที่
- กรุงเทพฯ และปริมณฑล: การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) ผ่านเว็บไซต์หรือ Call Center 1130
- ต่างจังหวัด: การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ผ่านเว็บไซต์หรือ Call Center 1129
สรุปบทความ
ค่าไฟแพงผิดปกติเกิดได้จากหลายสาเหตุ ทั้งพฤติกรรมการใช้ไฟฟ้า การปรับขึ้นของค่า Ft และปัจจัยภายนอกอื่นๆ การแก้ปัญหาต้องเริ่มจากการตรวจสอบสาเหตุอย่างเป็นระบบ พร้อมปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ไฟฟ้าให้เหมาะสม หากพบความผิดปกติควรรีบแจ้งการไฟฟ้าเพื่อตรวจสอบและแก้ไข ที่สำคัญคือการวางแผนการใช้ไฟฟ้าอย่างมีประสิทธิภาพ และพิจารณาทางเลือกอื่นๆ เช่น การติดตั้งโซลาร์เซลล์ เพื่อลดค่าใช้จ่ายในระยะยาว